กุลนิดา แย้มทิม
บทคัดย่อ
Content Marketing เป็นการใช้เทคนิคการตลาดในการสร้างและกระจายเนื้อหาที่มีคุณค่าแก่ผู้บริโภคควบคู่กับการสร้างสรรค์
ไม่ใช่รูปแบบการเสนอขายสินค้าโดยตรง แต่เป็นการสร้างความประทับใจ
สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ ทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำและเกิดความภักดีต่อแบรนด์
แม้จะเป็นรูปแบบการตลาดที่เกิดขึ้นมานานแล้ว
และเพิ่งกลับมาได้รับความนิยมในยุคปัจจุบันซึ่งก็คือยุค Digital โดยนำมาใช้ทำการสื่อสารทางการตลาดอย่างเป็นวงกว้างใน Social Media
ซึ่งช่องทางที่เป็นที่นิยมอย่างเห็นได้ชัดคือ Facebook และ Video บน Youtube เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย
เช่น ผู้บริโภคมีอัตราการใช้สมาร์ทโฟนที่สูงขึ้นในทุก ๆ ปี
และใช้เวลาอยู่กับสังคมออนไลน์มากขึ้น
ผู้บริโภคชอบความสะดวกรวดเร็วในการค้นหาข้อมูลของสินค้าและบริการ
การแสดงความคิดเห็น การแชร์ข้อมูล
ส่งผลให้แบรนด์ต้องหันมาใส่ใจกับเนื้อหาและรูปแบบการนำเสนอให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้มากที่สุด
และการทำ Content Marketing ก็ยังส่งผลดีต่อแบรนด์
ในการสร้างช่องทางการติดต่อกับผู้บริโภคได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอข่าวสาร การตอบคำถามหรือแก้ปัญหาให้แก่ผู้บริโภค ทำให้แบรนด์สามารถหาจุดอ่อนและนำข้อบกพร่องมาปรับปรุงแก้ไข
ส่งผลให้แบรนด์เกิดความเข้มแข็งและสามารถเป็นผู้นำเหนือแบรนด์คู่แข่งในท้องตลาดได้
อย่างไรก็ตามหลายแบรนด์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่ได้นำ Content
Marketing ไปใช้ในการสื่อสารการตลาด
และได้ประสบผลสำเร็จในการสร้างความรับรู้แก่ผู้บริโภค
อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มยอดจำหน่ายโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากเท่ากับการลงทุนในสื่อหลักในอีกทางหนึ่งด้วย
คำสำคัญ : Content Marketing, Social Media, ยุค Digital, สังคมออนไลน์
Content
Marketing เป็นเทรนด์ที่กำลังมาในยุค Digital
ในช่วงเวลา 2-3
ปีที่ผ่านมา ประเด็นสำคัญที่นักการตลาดยุคนี้จับตามองเป็นพิเศษ
คงหนีไม่พ้นความเคลื่อนไหวของสื่อยุคดิจิตอล อย่างสังคมออนไลน์ อาทิเช่น Twitter
Facebook หรือ Youtube ที่สร้างปรากฏการณ์แบบ “ดังเพียงข้ามคืน” ด้วยการบอกต่อ (อุไรพร
ชลสิริรุ่งสกุล, 2554) หรือการเกิดเว็บไซต์ที่มีรูปแบบลูกเล่นน่าดึงดูดใจในรูปแบบใหม่
ๆ และกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยผู้สร้างเนื้อหาข้อมูลในสื่อออนไลน์นี้
ไม่จำเป็นต้องเป็นนักการตลาดที่จะเป็นผู้สื่อสาร แต่กลับเป็นใครก็ตามที่มีเครื่องมือการสื่อสารอยู่ในมือ
Content Marketing เป็นตัวเชื่อมโยงและต่อยอด Campaign
Marketing ระหว่างสื่อ Online และ Offline
ที่พบเห็นได้ในปัจจุบันหลายแบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ในอีกทางหนึ่งของพฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ที่ปรากฏอย่างเห็นได้ชัดคือ อัตราการใช้งานที่สูงขึ้นใน Smartphone และ Mobile Device เช่น Tablet, iPod, iPad เป็นต้น
ทำให้การเสพเนื้อหาบนหน้าจอที่สองและหน้าจอที่สามมีมากขึ้นจากสมัยที่มีเพียงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
(สร เกียรติคณารัตน์, 2557) ได้แสดงความคิดเห็นว่า Multi-Screen นำมาซึ่งโอกาสในการให้ข้อมูล เนื้อหาที่หลากหลายมากกว่าเดิม ซึ่งตอบสนองพฤติกรรมการเสพข้อมูลของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความสนใจในเนื้อหาที่หลากหลาย ดังนั้นการสร้างกลยุทธ์การสื่อสารจึงต้องมองให้ครอบคลุมถึงกลยุทธ์ในการวางเนื้อหา
ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของ Screen และพฤติกรรมการใช้
Screen ต่าง ๆ เหล่านั้น และผลสำรวจของ
Zocial Inc (2557, 17 มิถุนายน) รายงานถึงพฤติกรรมการใช้ Social Media ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอนจนจบวันเข้านอน พบว่า ผู้บริโภคใช้ Facebook มากถึง 99% Line (84%), Instagram (56%), Google+ (41%) และ Twitter(30%)
ดังนั้นการสื่อสารเนื้อหาข้อมูลในหลากหลายช่องทางในสื่อยุคดิจิตอล
มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วที่สุด ผู้บริโภคที่เปิดรับสื่อดิจิตอล
คาดหวังที่จะได้รับการสื่อสารที่ชัดเจน และมีข้อมูลเพียงพอช่วยตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อสินค้า
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นสินค้าอุปโภคบริโภคอัดงบประมาณลงในสื่อดิจิตอลมากขึ้น
(อุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล, 2554) และ Content
Marketing เป็นรูปแบบการตลาดที่กำลังนิยมในหมู่ของนักการตลาดยุคใหม่
(ลานดาว ตาหวาน, 2557) ได้ให้เหตุผลสนับสนุนว่า Content
Marketing เป็นอีกหนึ่งวิธีการทำการตลาดออนไลน์
ซึ่งกำลังมาแรงและพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย
การทำการตลาดในรูปแบบนี้จะมีส่วนช่วยในผลของการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือเนื้อหาที่เกี่ยวก้องกับผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น
รู้จักกับ
Content Marketing
ในชีวิตประจำวันเราคงจะพบเห็นโฆษณามากมายรอบตัวเรา
โดยโฆษณาเหล่านี้มักจะเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ
ไม่ว่าโฆษณานั้นจะออกมาในรูปแบบใด แต่สุดท้ายจุดประสงค์หลักคือการหว่านล้อมให้เราเลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากบริษัทผู้ผลิตอยู่ดี
ในทางกลับกัน Content Marketing เป็นการนำเสนอ “Content”
ซึ่งก็คือ “เนื้อหาที่มีประโยชน์” ให้กับผู้บริโภค
โดยมีจุดประสงค์หลักก็คือ เพื่อทำให้ผู้บริโภครู้สึกประทับใจจนสามารถจดจำ Brand
สินค้าได้ และเกิดความความจงรักภักดีใน Brand สินค้า
(Brand Loyalty) ในที่สุด แต่ในความจริงแล้วเป้าหมายลึกๆ
ของ Content Marketing ก็คือการขาย
เพียงแต่จะเน้นไปที่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของผู้บริโภคก่อนเป็นอันดับแรก และส่งผลให้ผู้บริโภคเลือกใช้สินค้าหรือบริการ
โดยที่ไม่ต้องใช้สื่อหลากหลายประเภทในการจูงใจ จึงส่งผลให้ ในรูปแบบการตลาดที่ผลิตโฆษณาต้องหันกลับมาดูว่าเนื้อหาของการสื่อสารการตลาดจะโดนใจช่วยสนับสนุนการทำโปรโมชั่นหรือเสริมกลยุทธ์ทางการตลาดเพียงใด
เพราะเมื่อการสื่อสารผ่านสื่อดิจิตอลเป็นสิ่งสำคัญนั้นก็ย่อมจะต้องกลับมาสู่เรื่องของเนื้อหาของภาพ
เนื้อหาวีดีโอว่ามีความสร้างสรรค์มากแค่ไหน Content
Marketing จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ (วิลาส ฉ่ำเลิศวัฒน์
และคณะ, 2555)
ความหมายของ
Content Marketing
มีนักการตลาดหลายคนให้ความหมายของ Content Market ไว้อย่างหลากหลาย แต่โดยรวมแล้วหลักการทั่วไปจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ได้แก่
Content
Marketing คือ กระบวนการทำการตลาดด้วยการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาหรือสาระ
ไปสู่กลุ่มเป้าหมายของตัวเองที่มีโอกาสหรือจะเป็นลูกค้า เพื่อที่จะดึงความสนใจ
สร้างปฏิสัมพันธ์และนำไปสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ
ทำให้เกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้าหรือการใช้บริการ
ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการให้ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมต่อผู้บริโภคในด้านการสร้างความมั่นใจต่อการตัดสินซื้อ
และยังสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ที่อ่านทุกคน รวมถึงการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์อีกด้วย
(ณัฐพัชญ์ วงศ์เหรียญทอง, 2557)
Content
Marketing คือ การจัดการด้านเนื้อหาในการทำการตลาด ซึ่งต้องอาศัย creativity
หรือความคิดสร้างสรรค์ในการจัดการเนื้อหาให้มีความน่าสนใจ
และตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย บนพื้นฐานที่ว่าได้สาระผนวกความบันเทิง
เพราะปัจจุบันผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นกิจกรรมที่คลายเครียดเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้นการสร้างเนื้อหากึ่งบันเทิงจึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของบุคคลได้เป็นอย่างดี
(ณัฐพล ใยไพโรจน์, 2558)
Content
Marketing คือ เทคนิคทางการตลาดและกระบวนการทางธุรกิจ
ในการสร้างสรรค์และเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณค่า และเนื้อหาที่กระตุ้นความสนใจ
เพื่อดึงดูดความสนใจ สร้างปฏิสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมาย
โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปสู่การกระทำของลูกค้าที่เป็นประโยชน์ทางธุรกิจ (Joe
Pulizzi, 2013)
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า
Content Marketing เป็นรูปแบบการตลาดที่ถือเป็นความท้าทายของนักการตลาดยุคดิจิตอลอย่างมาก
เนื่องด้วยวิธีความคิดรูปแบบใหม่ ๆ
ที่เน้นการสร้างสรรค์อาจจะไม่ตอบสนองหลักการขายของนักการตลาดทั่ว ๆ ไป
ซึ่งการนำเสนอในขั้นแรกที่ดีควรเน้นเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่าต่อผู้บริโภคมากกว่าการโฆษณาขายสินค้า
พฤติกรรมผู้บริโภคกับการเสพสื่อยุคใหม่ที่ต้องการ
content
พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิตอลยังคงได้รับผลจากความทันสมัยของเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันในด้านการรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อ
โดยมีการลดอัตราการเสพสื่อเดิม แต่เพิ่มอัตราการเสพสื่อออนไลน์มากขึ้น ผู้บริโภคมีความต้องการที่จะรับรู้ข่าวสารอยู่ตลอดเวลาเป็นพฤติกรรมใหม่ที่เรียกว่า
Always-On คือเปิดรับข้อมูลอยู่ตลอดเวลา
เปิดให้ข้อมูลเป็นฝ่ายที่จะวิ่งเข้าหามากกว่าการวิ่งไปหาข้อมูลเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ที่ต้องการ
รวมถึงชอบการแชร์และชอบโชว์ กล้าที่จะเล่าเรื่องราวกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
แสดงความคิดเห็นส่วนตัว เปลี่ยน Status บน Facebook
Wall, แชร์ความคิดเห็นผ่าน Twitter, Check-in
สถานที่ที่อยู่ตอนนี้ผ่าน Foursquare ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่าย
และกลายเป็นเรื่องสำคัญของนักการตลาดดิจิตอลที่จะต้องใส่ใจและให้ความสำคัญถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่
นักวางกลยุทธ์ นักสร้างสรรค์
จึงต้องทำการบ้านหนักขึ้นเพื่อนำเสนอเนื้อหาให้โดนใจผู้บริโภค
ตอบโจทย์พฤติกรรมการแชร์และส่งต่อซึ่งเป็นผลดีกับแบรนด์และสินค้านั้น ๆ (วิลาส
ฉ่ำเลิศวัฒน์ และคณะ, 2555)
Zocial
Inc (2557, 30 เมษายน) รายงานถึง คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ Social network และการแชร์ระหว่าง Social
network ที่ได้รับความนิยมมี 4 ตัวหลัก (ข้อมูล ณ
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ค. 2557) ได้แก่ Facebook,
Twitter, Instagram และ Youtube โดยพบว่า
กลุ่มตัวอย่างผู้ใช้ Facebook 9,450 คน มีการโพส รูปมากที่สุดอยู่ที่
57% และเพศชาย มีการแชร์ Twitter ลงสู่
Facebook มากที่สุด 65% รองลงมามีการแชร์
Video จาก Youtube 61% และมีแชร์ภาพจาก Instagram ลงสู่ Facebook 38%
ส่วนเพศหญิง แชร์ภาพจาก Instagram
ลงสู่ facebook มากที่สุด 62% รองลงมามีการแชร์ Video จาก Youtube 39% และมีการแชร์ Twitter ลงสู่ Facebook 35% ในส่วนของ Youtube คนไทยอัพโหลดวีดีโอทั้งหมด
2.98 ล้านคลิปในปี 2013
จะเห็นได้ว่า อุปกรณ์ประเภท Mobile Device ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายรวดเร็ว
ผู้บริโภคเสพเนื้อหาข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา
ส่งผลให้มีตัวเลือกและทางเลือกมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ เช่น การค้นหาข้อมูลจาก
Blog content, Infographic, Video
Review, กระทู้ Q&A
อีกทั้งบทความที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงการที่ผู้บริโภคพร้อมที่จะรับสิ่งที่ตนสนใจและแชร์ไปยังผู้อื่นด้วยถ้าข้อมูลนั้นมีความน่าสนใจ
และมีคุณค่าที่จะแบ่งปันให้ผู้อื่น ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ วิน รัตนาธีราธร (2553) ศึกษาเรื่อง ทัศนคติต่อการทำการสื่อสารทางการตลาดในรูปแบบ Viral
Video และปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจแชร์ออนไลน์วีดีโอของผู้ใช้ Facebook
ในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่า ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดทัศนคติของผู้บริโภคต่อการทำออนไลน์วีดีโอทั้งเพื่อการโฆษณาและไม่ใช่เพื่อการโฆษณาคือ
ลักษณะเนื้อหา และวิธีการนำเสนอ โดยลักษณะเนื้อหาที่มีแนวโน้มจะทำให้เกิดทัศนคติในแง่บวกคือ
เนื้อหาที่ตลก เนื้อหาเกี่ยวกับดนตรี เนื้อหาที่ทำให้เกิดความประหลาดใจ
เนื้อหาที่สร้างสรรค์โดดเด่น เนื้อหาสร้างแรงบันดาลใจให้แง่คิด
และเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบุคลหรือสินค้า และปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคต่อการตัดสินใจแชร์ออนไลน์วีดีโอ
คือ ความประทับใจในด้านเนื้อหา วิธีการนำเสนอ
และความเหมาะสมของเนื้อหาที่จะแชร์ออนไลน์วีดีโอนั้นลงไปในเครือข่ายสังคมออนไลน์
อีกงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความสำคัญของเนื้อหาข้อมูลที่มีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
(อรรถชัย วรจรัสรังสี, 2556) ศึกษาเรื่อง
ประเภทเนื้อหาการตลาดบนเฟซบุกแฟนเพจและความตั้งใจซื้อของผู้บริโภค มีข้อค้นพบว่า
ความพึงพอใจในประเภทเนื้อหาการตลาดบนเฟซบุ๊กแฟนเพจสินค้ามีความสัมพันธ์กับความตั้งใจซื้อของผู้บริโภค
ถ้าผู้บริโภคมีทัศนคติเชิงบวกต่อเนื้อหาบนเฟซบุกแฟนเพจ
ก็จะส่งผลให้มีความตั้งใจซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้อมูลข่าวสารนั้นจะต้องเป็นเนื้อหาข้อมูลที่ดี
มีความน่าสนใจ เป็นข้อมูลที่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคได้
จะต้องมีความง่ายและชัดเจน
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิตอลที่เปลี่ยนแปลงไปที่มีการใช้ชีวิตอยู่กับ
Smartphone และ Social
Media มากขึ้น ทำให้การที่จะสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ที่ใช้สื่อแบบใหม่ในการค้นหาข้อมูล
มีความจำเป็นที่ต้องหาเนื้อหาที่โดนใจกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย
เพราะพวกเขาเป็นพลังสำคัญที่จะแชร์เนื้อหาของข้อมูลข่าวสารไปในโลกของ
Social Network จึงทำให้เกิดเป็น Content Marketing ในการสื่อสารการตลาดที่ต้องใส่ข้อมูลและรูปภาพเกี่ยวกับสินค้าลงไป และ Content
Marketing Campaigns ได้กลายมาเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักการตลาดในการสร้างความผูกพันกับกลุ่มคนดูและการสร้างข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการค้นหา
ในความจริงมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้บริโภคมีความชอบที่จะซื้อสินค้าและบริการจากบริษัทที่สร้างสรรค์เนื้อหาที่เหมาะสม
(Kyli Singh, 2014)
พัฒนาการของ
Content Marketing ในยุค Digital Marketing
Content
Marketing ไม่ใช่ศัพท์ใหม่หรือรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในวงการทางการตลาด
แต่มันเป็นรูปแบบการตลาดที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใบปลิว
โปรชัวร์ของสินค้า บทความตามนิตยสารและหนังสือพิมพ์ แต่ในช่วงปีหลัง ๆ Content
Marketing กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ส่งผลให้องค์กรหันมาให้ความสำคัญกับการตลาดรูปแบบนี้มากขึ้น
โดยหยุดนำเสนอการขายโดยตรง
แต่หันมาสร้างข้อมูลเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายแทน
เพื่อเพิ่มช่องทางใหม่ ๆ ในการปฏิสัมพันธ์และต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
โดยพัฒนาการของ
Content Marketing ในยุค Digital Marketing ในมุมของการแบ่งตามช่วงเวลาจะสามารถแบ่งได้
(ณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง, 2557) ดังนี้
ช่วงที่ 1 Traditional Digital Marketing เป็นยุคของเว็บไซต์
เนื้อหาข้อมูลจะอยู่ในเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อรอผู้บริโภคเข้าไปเสพ
และเข้าไปแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันในเว็บบอร์ด ในยุคนี้แบรนด์ต่าง ๆ
จะซื้อ แบนเนอร์ (Banner) ลงเว็บไซต์
โดยทำรูปแบบที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นภาพสี การเคลื่อนไหว
เพื่อดึงดูดใจให้ผู้บริโภคกดเข้าไปดูข้อมูล
ช่วงที่
2 Social Media Marketing เป็นยุคทองของ Facebook และ Twitter ซึ่งการทำการตลาดของแบรนด์ต่างๆ หันมาสร้างสื่อ Facebook Page และ Twitter Account เพื่อเป็นช่องทางที่นำเสนอข่าวสารถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและ
สร้างการบอกต่อในกลุ่มสังคมออนไลน์
ช่วงที่
3 Content Marketing เป็นยุคที่แบรนด์หันมาผลิตสื่อเอง
โดยการผลิต Content ใน Social Media เพื่อสร้างความผูกพันกับผู้บริโภค
สร้างการปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้โดยตรง และเพิ่มการขายสินค้าและบริการ รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์
รูปแบบของ
Content Marketing
รูปแบบ
Content
Marketing สามารถนำเสนอได้ 4 รูปแบบ (สุรนาถ เนียมคำ, 2557) ดังนี้
1. บทความ
สร้างเนื้อหามีประโยชน์แก่ผู้บริโภค
อาจใช้วิธีเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสนใจ
มองหาเนื้อหาที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้นและยังไม่เคยมีใครเขียนมาก่อน
หรืออาจมีคนเขียนแล้วแต่ยังไม่ดี
และที่สำคัญเนื้อหานั้นต้องสื่อถึงแบรนด์สินค้าและบริการที่ต้องการนำเสนอขายด้วย
ซึ่งวิธีนี้ได้ผลดีในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ใช้รูปภาพที่สามารถสื่อความหมายได้ดีอย่าง
Infographics เป็นการสร้างภาพรวมของเนื้อหาที่เข้าใจยากหรือซับซ้อน
แต่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่าย โดยเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวกับแผนภาพหรือการเปรียบเทียบสถิติ
อีกทั้งยังสามารถใช้สีสันเข้ามาถึงดูดความสนใจผู้บริโภคได้อีกด้วย
3. วีดีโอ
เป็นรูปแบบที่น่าสนใจ มีภาพเคลื่อนไหว
มีเสียงอธิบายชัดเจน ง่ายต่อการเผยแพร่
และผู้บริโภคได้รับความรู้โดยไม่ต้องเสียเงิน แม้ว่าการทำวีดีโอ Content Marketing อาจจะใช้ต้นทุนในการผลิตสูงกว่ารูปแบบอื่น
ๆ
แต่กลับได้ความประทับใจจากผู้บริโภคที่มองเห็นถึงความพยายามที่จะนำเสนอเนื้อหาที่มีประโยชน์ให้แก่พวกเขา
4. Social Media
เป็นช่องทางที่สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วที่สุดในโลกออนไลน์
สามารถอัพเดทข้อมูลข่าวสาร คอยตอบคำถามให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ผู้บริโภคประสบปัญหาหรือมีข้อสงสัย
และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์อีกด้วย
นอกจากวิธีข้างต้นยังสามารถทำ Content
Marketing มานำเสนอด้วยวิธีอื่น ๆ ตามแต่นักการตลาดจะคิดได้ อาทิ
การรีวิว, งานวิจัย, Case Study ฯลฯ
ขึ้นอยู่ความสะดวกในรูปแบบการทำ หรือจะทำพร้อมกันในคราวเดียว
เพราะยิ่งมีการเผยแพร่มากเท่าไหร่ การรับรู้ตราสินค้าย่อมเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น (ณัฐพล ใยไพโรจน์, 2558)
กรณีศึกษา Content
Marketing ในต่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จ
1.
อาหารแมว Friskies
เมื่อกลางปี 2014
BuzzFeed ได้ปล่อย Viral VDO ของผลิตภัณฑ์อาหารแมว
Friskies ออกมาถูกใจกลุ่มคนรักสัตว์และได้คำชมอย่างแพร่หลายของเนื้อหาที่นำเสนอถึงความน่ารักของแมวรุ่นพี่ที่กำลังสอนลูกแมวตัวใหม่ที่เข้ามาในบ้าน
และตัวบทบรรยายที่สร้างสรรค์ ที่สมมติเป็นตัวแมวเอง
มีความฉลาดและมีอารมณ์ขันอยู่ตลอด เทคนิคทางภาพ และเสียงประกอบผสมกลมกลืนไปทั้งเรื่อง
ทำให้คนดูไม่รู้สึกเบื่อ ตลอดเวลา 3 นาที
ไม่มีการขายสินค้าเกิดขึ้น
มีเพียงแค่ช่วงท้ายคลิปที่โชว์รูปสินค้าและยังไม่มีการเอ่ยชื่อแบรนด์ด้วย ยิ่งทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกดี
ไม่เกิดการหลีกเลี่ยงโฆษณา อีกทั้งคลิปนี้ช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ให้เกิดแก่ผู้บริโภคได้
เนื่องจากเนื้อหาของคลิปได้สร้างอารมณ์ร่วมของผู้บริโภคระหว่างที่ดูความน่ารักของลูกแมวด้วย
และปัจจุบันผลสำเร็จของ Viral VDO “Dear Kitten” ของ Friskies ได้มียอดผู้ชมสูงถึง 21 ล้านคนแล้ว
2.
Oreo “Daily Twist”
โอริโอ้ (Oreo) ขนมปังกรอบไส้ครีมที่อยู่ในเมืองไทยมาหลายปี มีบริษัทแม่อย่าง Kraft
Foods ของประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีอายุมากกว่า 100 ปีเป็นผู้ดูแล และเมื่อปี 2012 ได้มีการตั้งแคมเปญ “Daily
Twist” เพื่อฉลองครบรอบ 1 ศตวรรษของโอริโอ้
เนื้อหาของการนำเสนออาศัยการใช้เงื่อนไขของเวลาที่เป็นตำนานของสินค้าและแบรนด์
และสร้าง Gimmick ใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ
ด้วยการรวมเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของโลกผ่านคุกกี้กับความสำคัญของวันสำคัญตลอดหนึ่งปี
เช่น วัน Gay Pride ทางโอริโอ้ได้เปลี่ยนคุกกี้จากครีมสีขาว
เป็นครีมสีรุ้ง หรือวันที่มนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์
ทางโอริโอ้ก็ทำรูปรอยเท้าบนครีมคุกกี้ เป็นต้น
ดังนั้นจะเห็นได้ถึงความโดดเด่นของความคิดสร้างสรรค์ในการใช้จุดเด่นของตัวสินค้า
คือ ตัวคุกกี้และตัวครีม มาเป็นส่วนสำคัญในการผลิต Content รวมทั้งการใช้สื่อ Social Media เข้ามาช่วยถึง 4
ช่องทาง ได้แก่ ทาง Website, Facebook,
Tumblr และ Pinterest ส่งผลให้เกิดการพูดคุยและส่งต่อรูปน่ารัก
ๆ แพร่กระจายไปในกลุ่มสังคมออนไลน์ได้อย่างทันที นับได้ว่าแคมเปญนี้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก
Ms.Chen ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า เพราะตั้งแต่ออกแคมเปญนี้มา
มียอดเข้าชมทาง Social Media จากแฟนประจำพุ่งขึ้นไปอีกถึง 110% รวมไปถึงการแชร์ ยอดไลค์ และการแสดงความคิดเห็น ซึ่งโดยปกติแล้วเฉลี่ยแค่
7,000 โพส แต่เมื่อแคมเปญนี้ออกมา
ก็ได้เพิ่มยอดเฉลี่ยเพิ่มถึง 14,700 โพส
และจากการสอบถามพบว่า ทุกคนอยากลองชิมโอริโอ้สีรุ้ง ที่คาดว่าจะทำมาเพื่อฉลองงาน Pride
สำหรับชาวสีม่วงทั่วโลกนั่นเอง
กรณีศึกษา Content
Marketing ในประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จ
1.
ร้าน KFC ใน Facebook Fanpage
Facebook Fanpage ของ KFC มีความประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ในด้านการประชาสัมพันธ์ทางการตลาดในการเสนอสินค้าและบริการ
และสร้างความรู้สึกที่ดีให้แก่สังคมออนไลน์ โดยการเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภค
ซึ่งเห็นได้จากสมาชิกในเพจที่มีมากถึง 36 ล้านคน
และการแชร์รูปภาพบทสนทนาการตอบโต้ของแอดมินเพจกับผู้ที่ติดตามเพจ ทำให้เกิดกระแสการบอกต่อ
(Word of Mouth) เนื่องจากแอดมินนำเสนอเนื้อหาในทางสร้างสรรค์ ที่ไม่ใช่แค่การโพสรูปหรือเนื้อหาที่มุ่งแต่ขาย
แต่ได้ใช้ความอารมณ์ดีผ่านทางเนื้อหาสอดแทรกข้อมูลของการบริการและแนะนำสินค้าโดยที่ไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเขากำลังถูกคุมคาม
และมีการแก้ปัญหาได้ดีเมื่อได้รับคำติชมจากลูกค้า ตอบคำถามเชิงบวก และสุภาพ ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ
ซึ่งสอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ นายธันยเชษฐ์
เอกเวชสิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท Yum Restaurants International
(Thailand) กล่าวไว้ว่า "การตอบคำถามในเพจ KFC นั้น เรามีจุดประสงค์หลัก 2 ประการ คือ 1. เราอยู่ในธุรกิจบริการ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การให้บริการลูกค้า
ช่องทางใน Facebook ก็เป็นหนึ่งช่องทาง
แต่เราไม่อยากให้การบริการลูกค้าแบบเดิมๆ มันดูน่าเบื่อ ไม่สนุกสนาน
ตรงนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการตอบคำถามแบบสร้างสรรค์ 2. ปัจจุบันผู้บริโภคเปลี่ยนไป
Social Mobile Content Marketing มีความสำคัญอย่างมาก
เราจึงพยายามที่จะใช้ช่องทางดังกล่าว สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภค
โดยเฉพาะลูกค้านิวเจเนอเรชั่น การสร้างรอยยิ้ม สร้างความผูกพันกับแบรนด์
นี่คือวัตถุประสงค์หลักที่เราหันมาให้ความสำคัญกับ Social Media โดยเฉพาะกับ Facebook"
2. Air Asia ทำ Viral VDO เพื่อโปรโมทบริการ
Self Check-in ผ่านตู้อัตโนมัติ
แม้ว่าตู้เช็คอินก่อนขึ้นเครื่องบินแบบอัตโนมัติจะให้บริการมานานแล้ว
แต่ลูกค้าก็ยังไม่ค่อยรับรู้เท่าที่ควร ทาง
Air Asia จังฉีกกฎการประชาสัมพันธ์การบริการแบบเดิม ๆ
ที่แค่บอกเล่าผ่านสื่อให้ลูกค้ารับรู้โดยตรง แต่ได้เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอใหม่
เป็นการปล่อย Viral บน Youtube
ที่นำเสนอการบทสนทนาโต้ตอบของตู้เช็คอินแบบอัตโนมัติกับลูกค้า Air Asia ที่มาใช้บริการ ผ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ สร้างกิจกรรมให้ลูกค้ามีส่วนร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม
การแสดงท่าทาง สีหน้าและการเคลื่อนไหว ทำให้เกิดความสนุก อารมณ์ขัน สร้างเสียงหัวเราะ
โดยใช้คำพูดที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์
และยังคงตอกย้ำการบริการของตู้อัตโนมัติเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และ
Viral VDO มีทั้งหมดสองตัว ในปี 2011 ชื่อคลิป
“เช็คอินเกรียน ๆ ที่นี่ที่เดียว” และ ปี 2015 ชื่อคลิป “เช็คอินเกรียน ๆ ภาค 2” ในปัจจุบันได้มียอดผู้เข้าชมกว่า 1 ล้านคนแล้ว อีกทั้งกลุ่มคนดูยังมีการตั้งกระทู้บนเว็บไซต์ชื่อดังต่าง
ๆ ในการพูดคุยบนสังคมออนไลน์ถึงภาพรวมของคลิปนี้อีกด้วย
ดังนั้นจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า
ผู้บริโภคชื่นชอบ Content Marketing ที่สร้างสรรค์ มีความสนุกและแปลกใหม่
และพวกเขายินดีที่จะบอกต่อเมื่อเห็นคุณค่าของในเนื้อหานั้น ๆ
อาจจะไม่ใช่เพียงแค่คุณสมบัติของสินค้าหรือบริการ
แต่อาจจะเป็นเนื้อหาสาระที่สอดแทรกความบันเทิง สร้างความสุขให้เกิดแก่คนรอบข้าง
ข้อดีของการทำ
Content Marketing
Content
Marketing เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างแบรนด์ได้อย่างดี
การสร้างเรื่องราวให้กับแบรนด์ ด้วยการใส่เนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับความน่าเชื่อถือ
และมีคุณค่า จะทำให้ดึงดูดความสนใจและทำให้ภาพ
แบรนด์ชัดเจนในใจกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
ซึ่งสอดคล้องกับ (ลานดาว ตาหวาน, 2557) ที่กล่าวไว้ว่า การเขียนเรื่องราวในเชิงบวก ทำให้เกิดความรู้สึกเชิงบวก
ควรมีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบได้จริง
จะนำไปสู่การสร้างความสนใจให้กับตัวผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการโฟกัส
กับผู้บริโภคที่เข้ามาพบเรา การนำเสนอผลิตภัณฑ์ควรนำเสนอด้วยเนื้อหาที่แปลกใหม่
มีความน่าสนใจ และนำเสนอตรงประเด็น มีความแตกต่างในท้องตลาด มีความคิดสร้างสรรค์
ประโยชน์ที่แบรนด์จะได้รับ
คือการได้ยอดจำนวนผู้เข้าชมที่สูงขึ้นผ่านทาง Social Media
และ Search Engine ทั้งนี้ผู้อ่านเนื้อหาสามารถแสดงความคิดเห็น
ให้คะแนน รวมถึงถามตอบกันเองระหว่างผู้อ่านได้ด้วย เรียกว่า User
Engagement และอาจช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าและบริการได้อีกด้วย (Jirawat
worasubhakorn, 2557) และประโยชน์ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ
ผู้บริโภครู้ว่ามีแบรนด์ของเราอยู่บนโลกใบนี้ หลาย ๆ
คนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์ของเรามาก่อน แต่ก็มารู้จักจากการบอกต่อ ๆ กัน
หรือจากการแชร์เนื้อหาผ่านทาง Social Media เมื่อสร้าง Brand
Awareness แล้ว ก็จะทำให้เกิด Brand Loyalty ถ้าเนื้อหานั้นมีประโยชน์ต่อตัวผู้บริโภคจริง
ๆ ไม่ใช่เน้นแต่การขายของอย่างเดียว
อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มยอดขายโดยที่แบรนด์ไม่จำเป็นต้องเสียค่าโฆษณามากขึ้น (สุรนาถ
เนียมคำ, 2557)
สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับ
Content Marketing ในอนาคต
เพื่อให้สมกับยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นท้าทาย
นักการตลาดต้องมีแผนงานเกี่ยวกับเนื้อหาที่ชัดเจน ซึ่งอาจรวม Digital Content หลากหลายประเภท
ตั้งแต่วีดีโอไปจนถึงเนื้อหาที่แฝงการขายสินค้า
และเนื้อหาที่เปิดกว้างให้ลูกค้ามีส่วนร่วมสร้างสรรค์ (เคนท์ เวอร์ไทม์ และเอียน เฟนวิค,
2551) แบรนด์ต่าง ๆ จะพัฒนาเนื้อหาให้น่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพ
เสียง สีสัน รูปแบบการนำเสนอ
เพื่อเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปในทุก ๆ วัน และการแข่งขันบนโลกออนไลน์ของสินค้าชนิดเดียวกันจะเพิ่มสูงขึ้น
และเปี่ยมไปด้วยคุณภาพของคุณค่าทางด้านเนื้อหามากยิ่งขึ้น
การทำความเข้าใจเรื่อง Content Marketing อย่างจริงจังในระดับองค์กร
ไม่ใช่แค่การทำคลิปวีดีโอบน Youtube หรือสร้างเนื้อหาใน Facebook
ค่าใช้จ่ายในการทำประเภทคลิปวีดีโอจะสูงเพิ่มมากขึ้น
เพราะจะมีการแข่งขันกันมากขึ้นด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่สนใจการดูมากกว่าการอ่าน
และในองค์กรอาจเกิดตำแหน่งใหม่ขึ้นมาเช่น Content Marketing Executive / Content Editor หรือแม้แต่ตำแหน่งบริหารอย่าง Chief Content Officer
ทำให้มีการเพิ่มกำลังผลิตเนื้อหาเพื่อนำไปเผยแพร่ในช่องทางของแบรนด์เองโดยเฉพาะ (Nuttaputch,
2557) และมีการทำนายไว้ว่า ในปี 2017
นั้น 74% ของอินเตอร์เน็ต Traffic จะมาจาก Content ที่เป็นรูปแบบ Video และจะเกิด Trend ของ Video Content Marketing
อีกด้วย (Chawin Supakasemwong2557
Content Marketing
เป็นรูปแบบของการสื่อสารทางการตลาดที่สำคัญมากในยุคดิจิตอล เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป
มีความนิยมเสพสื่อทางโลกออนไลน์มากกว่าทางสื่อหลัก และให้ความสำคัญกับเนื้อหาข้อมูลที่มีประโยชน์มากขึ้น
ดังนั้นนักการตลาดควรหันมาให้ความสำคัญและทำการศึกษาอย่างจริงจัง ในการเลือกใช้รูปแบบที่จะนำเสนอเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ให้เหมาะสมกับสินค้าและบริการ
โดยยังคงจุดประสงค์หลักในการทำเพื่อสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคและทำให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค
ตลอดจนสร้างให้เกิดความภักดีต่อตราสินค้า และในอนาคต Content Marketing จะมีลักษณะที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในทุก
ๆ วัน ควบคู่กับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เคนท์ เวอร์ไทม์ และเอียน เฟนวิค. (2551). DigiMarketing
เปิดโลกนิวมีเดียและการตลาดดิจิทัล.
แปลจากเรื่อง
DigiMarketing. แปลโดย ณงลักษณ์ จารุวัฒน์ และดร.ประภัสสร วรรณสถิตย์, กรุงเทพมหานคร: โตเกียว
เนชั่น พริ้นติ้ง เซอร์วิส
ณัฐพล ใยไพโรจน์. (2558). Digital Marketing : Concept
& Case Study อัพเดทแบรนด์การตลาด
ออนไลน์ 2015. นนทบุรี: ไอซีดี พรีเมียร์.
ณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง. (2557). Content Marketing เล่าให้คลิก พลิกแบรนด์ให้ดัง. กรุงเทพมหานคร:
เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล
เอ็ดดูเทนเมนท์.
ไทยรัฐออนไลน์. (2558, 27 มกราคม). เบื้องหลังคำตอบสุดฮา
ฉลาดล้ำ เฉลยใครคือแอดมิน KFC ที่แรก. ไทยรัฐ. สืบค้นจาก http://www.thairath.co.th/content/477228
ลานดาว
ตาหวาน.
(2557, 04 พฤษภาคม). แนวทางการทำการตลาดออนไลน์
Content Marketing [บล๊อก].
สืบค้นจาก http://modernbusinessonline.com
วิน
รัตนาธีราธร. (2557). ทัศนคติต่อการทำการสื่อสารทางการตลาดในรูปแบบ
viral video และปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจแชร์ออนไลน์วีดีโอของผู้ใช้
Facebook ในเขตกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์).
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. สืบค้นจาก
http://digi.library.tu.ac.th/thesis/ac/1063/title-appendix.pdf
วิลาศ
ฉ่ำเลิศวัฒน์, สุธีรพันธุ์ สักรวัตร์, รณพงศ์ คำนวณทิพย์, นิวัฒน์ ชาตะวิทยากูล,
สุธาทร สุทธิสนธิ์, บัญญพนต์
พูลสวัสดิ์, วรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง,
อภิศิลป์ ตรุงกานนท์, อาทิตย์ เลิศรักษ์มงคล, ปภาดา อมรนุรัตน์กุล, ชุติน
ธรา
วัฒนกุล และจิรัสย์ พิพัฒน์วศิน. (2555). Marketing
10.0. กรุงเทพมหานคร: โปรวิชั่น
สร
เกียรติคณารัตน์.
(2557, 28 มีนาคม). INNOVATIVE ACTIVE, MULTI-SCREEN ENGAGEMENT [บล๊อก].
สืบค้นจาก http://marketeer.co.th/2014/03/innovative-activation/
สุรนาถ
เนียมคำ.
(2557, 05 เมษายน). Content Marketing
คืออะไร? [บล๊อก]. สืบค้นจาก https://m1ndfuel.wordpress.com/
อรรถชัย วรจรัสรังสี.
(2556).
ประเภทเนื้อหาการตลาดบนเฟซบุกแฟนเพจและความตั้งใจซื้อของผู้บริโภค. วารสารการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา,6(2),88-104.สืบค้นจาก http://www.jprad.commarts.
chula.ac.th/index.php/jprad/article/viewFile/79/71
อุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล. (2554). Digital Marketing ไอเดียลัดปฏิวัติการตลาด. กรุงเทพมหานคร:
กรุงเทพธุรกิจ
Ann-Christine
Diaz. (2012, September 11). Oreo’s 100-Day
‘Daily Twist’ Campaign Puts Cookie in
Conversation [Blog]. Retrieved from http://adage.com/article/digital/oreo-s-daily-twist-campaign-puts-cookie-conversation/237104/
BrandBuffet
Team. (2557, 01 เมษายน). สูตรลับปั้นแบรนด์ด้วยContent
Marketing [บล๊อก]. สืบค้นจาก
http://www.brandbuffet.in.th/2014/04/content-marketing-branding-adyim/
Chawin
Supakasemwong. (2557, 24 ตุลาคม). Video Content Marketing 2015 ปีหน้ามาแน่ [บล๊อก].
Jirawat Worasubhakorn. (2557,
23 พฤศจิกายน). ผมจะสอน 9 เทคนิคการทำ Content Marketing ให้คุณ
เอง
(สำหรับมือใหม่) [บล๊อก]. สืบค้นจาก http://www.jirawatisme.com/online-marketing/9-
content-marketing-tips/
Joe
Pulizzi. (2013). Epic Content
Marketing. United States: McGraw-Hill Professional
Kyli Singh. (2014, august 11).
61% of Consumers Prefer Companies With Custom
Online Content
[Blog]. Retrieved from http://mashable.com/2014/08/11/content-marketing-roi-data/
Nuttaputch. (2557, 26 มิถุนายน). เมื่อแมวรุ่นพี่สอนน้องเหมียวรุ่นเล็ก- Branded Content น่ารักๆ จาก
Plejing. (2558, 25 มีนาคม). Air Asia ทำ Viral VDO โปรโมทบริการ Self Check-in ผ่านตู้อัตโนมัติแบบสุด
เกรียน [บล๊อก]. สืบค้นจาก http://thaimarketing.in.th/2015/03/25/air-asia-self-check-in/
ViriYatae. (2557, 30 มิถุนายน). อนาคตของการตลาด คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง (Content
Marketing) [บล๊อก].
สืบค้นจาก https://m1ndfuel.wordpress.com/
Zocialinc.
(2557, 30 เมษายน). พฤติกรรมและความเชื่อมโยงของ
Social Network ไทย [บล๊อก]. สืบค้นจาก http://www.zocialinc.com/blog/thailand-socialnetwork-connection
บทความวิชาการจาก
นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ รุ่น 5 ภาคปกติ
นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ รุ่น 5 ภาคปกติ
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
กุลนิดา แย้มทิม
กุลนิดา แย้มทิม
คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ (GSCM)สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)
อาคารนวมินทราธิราช ชั้น 18 เลขที่ 118 หมู่ 3 ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น
เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
118 Moo.3 Navamindradhiraj Building Fl.18 Serithai Rd,
Klongchan, Bangkapi, Bangkok. 10240
อาคารนวมินทราธิราช ชั้น 18 เลขที่ 118 หมู่ 3 ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น
เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
118 Moo.3 Navamindradhiraj Building Fl.18 Serithai Rd,
Klongchan, Bangkapi, Bangkok. 10240
เรียบเรียงโดย :: เอมิการ์ ศรีธาตุ ::
#INNOVATION COMMUNICATION
#AMIKA #SRITAD #GSCM #NIDA #นิเทศนิด้า #INNOVATION #นวัตกรรม #NITADE NIDA #นิเทศ@นิด้า #นิด้า #นิเทศ #เอมิการ์ #ศรีธาตุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น